วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2561

10 ทีมดังในอดีตที่ดำดิ่งสู่ลีกล่างมายาวนานเป็นอย่างไร


ปัจจุบันของ10 ทีมดังในอดีตที่ดำดิ่งสู่ลีกล่างมายาวนานเป็นอย่างไร
.ปาร์ม่า
การที่สโมสรเชียร์บอลไม่อาจพยุงตัวเองด้วยรายรับจากฟุตบอลได้ จนต้องพึ่งเงินสนับสนุนจากกลุ่มเงินทุนหลักที่เป็นเหมือนบริษัทแม่เพียงอย่างเดียว คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ปาร์ม่า เข้าสู่ยุคมืด
ยุค 1990 ทีมจัลโล่บลูเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่รวมนักเตะระดับท็อปไว้มากมาย จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, ลิลิยอง ตูราม, ฮวน เซบาสเตียน เวรอน และ เอร์นัน เครสโป ทุกคนล้วนเริ่มต้นสร้างชื่อที่นี่ และเป็นกำลังสำคัญนำทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าคัพ กับ โคปป้า อิตาเลีย ในปี 1999 ถือเป็นยุคทองที่ไม่ว่าใครก็คิดถึง
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นว่า บริษัทแม่ของพวกเขาอย่างบริษัท ปาร์ม่าลัต ประสบปัญหาการขาดทุนอย่างย่อยยับ ทำให้พวกเขากลายเป็นหนี้ก้อนโตและลุกลามไปถึงทีมฟุตบอลจนถูกควบคุมกิจการเมื่อปี 2004 หลังจากนั้นปาร์ม่าก็กลายเป็นทีมเล็กๆ ที่ต้องหนีตกชั้นในแทบจะทุกฤดูกาลจนเเเม้แต่เก้าอี้ในสนามก็ยังต้องัดมาขาย ท้ายที่สุดในปี 2015 ทีมจัลโล่บลูก็โดนปรับตกชั้นไปอยู่เซเรียดี หลังเป็นหนี้ก้อนโตกว่า 200 ล้านยูโรและหานายทุนใหม่ซื้อกิจการไม่ได้
แต่พวกเขาก็ฟื้นคืนชีพมาใหม่อีกครั้งในชื่อ ปาร์ม่า กัลโช่ 1913 ไต่เต้าจากระดับเซเรียดี เลื่อนชั้นสู่เลกาโปร และกระโดดขึ้นเซเรียบีแล้วในฤดูกาลเชียร์บอลนี้ ที่สำคัญคือ "จัลโล่บลู" อยู่อันดับ 2 ในลีกรองมีโอกาสสูงที่จะได้กลับสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาลหน้า
ปัจจุบันของ10 ทีมดังในอดีตที่ดำดิ่งสู่ลีกล่างมายาวนานเป็นอย่างไร
ไกเซอร์สเลาเทิร์น
เชียร์บอลแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัยถือเป็น 1 ใน 16 สโมสร ไดโนเสาร์ที่ร่วมกันก่อตั้งบุนเดสลีกาขึ้นเป็นลีกสูงสุดของประเทศเมื่อปี 1963 (ปัจจุบันเหลือเพียง ฮัมบูร์ก ทีมเดียวเท่านั้นซึ่งยังไม่ตกชั้นจากลีกสูงสุด)
หลังจากเอาตัวรอดได้ตลอดรอดฝั่งมาตั้งแต่ยุค 1970 ไกเซอร์สเลาเทิร์น กลับต้องมาตกชั้นในฤดูกาล 1995-96 อย่างหน้าตาเฉยทั้งที่เพิ่งคว้าแชมป์เมื่อ 5 ปีก่อนหน้า และทำอันดับเลขตัวเดียวอย่างสม่ำเสมอ
แต่ต้องยอมรับในสปิริตของทีมยุคนั้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้การตกชั้นจะช็อคแฟนบอลทั้งเยอรมนี แต่ทีมปีศาจแดงแห่งเบทเซ่นแบร์กก็ลงเล่นลีกา 2 ด้วยฟอร์มสุดยอด นำจ่าฝูงแบบม้วนเดียวจบและกลับสู่ลีกสูงสุดได้ภายในปีเดียว
ที่พีคที่สุดคือ หลังเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดไม่ทันไร อ็อตโต้ เรห์ฮาเกล กุนซือเชียร์บอลของทีมชุดนั้น (ซึ่งต่อมาก็นำทีมชาติกรีซคว้าแชมป์ยูโร 2004) และนักเตะอย่าง ชิริอาโก้ สฟอร์ซ่า, มาริยัน ฮริสตอฟ, มิชาเอล บัลลัค และ โอลาฟ มาร์แชลล์ ก็ช่วยกันพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาชนิดหักปากกาเซียน
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่อาจยืนระยะได้เหมือนเช่นเคยเพราะในฤดูกาล 2005-06 ไกเซอร์สเลาเทิร์นตกชั้นลงไปสู่ลีกา 2 อีกหน และถึงแม้จะใช้เวลาอยู่ 4 ปีจนกลับสู่ลีกสูงสุดได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น